เมื่อคนที่เรารักต้องกลายเป็น “ผู้ป่วยติดเตียง” ไม่ว่าจะด้วยอายุ ภาวะเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุ ถึงแม้ในทางการแพทย์จะไม่สามารถระบุได้ว่าผู้ป่วยกลุ่มนี้จะกลับมาหายเป็นปกติหรือไม่ แต่สิ่งสำคัญที่ผู้ดูแลไม่ควรมองข้ามคือ การฟื้นฟูผู้ป่วยติดเตียงทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ป่วยมีโอกาสกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุขอีกครั้ง
วิธีดูแลผู้ป่วยติดเตียง ป้องกันแผลกดทับ และภาวะแทรกซ้อน
การดูแลผู้ป่วยติดเตียง ต้องอาศัยความรู้และความใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ อย่างรอบด้าน เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้ป่วย ดังนั้น เราจึงจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะผู้ป่วยติดเตียงกันให้มากขึ้น เพื่อให้คุณสามารถเลือกวิธีการดูแลได้อย่างเหมาะสม และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี
ผู้ป่วยติดเตียงคืออะไร ?
“ผู้ป่วยติดเตียง” คือบุคคลที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้เองหรือเคลื่อนไหวได้จำกัด จึงจำเป็นต้องพึ่งพาผู้อื่นในการช่วยเหลือกิจวัตรประจำวัน เช่น การรับประทานอาหาร การทำความสะอาดร่างกาย และการใช้ห้องน้ำ ผู้ป่วยกลุ่มนี้อาจเป็นผลมาจากสภาวะทางสุขภาพที่หลากหลาย เช่น ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยโรคปอด รวมถึงผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว หรือผู้ป่วยภายหลังการผ่าตัดใหญ่ด้วยเช่นกัน
ผู้ป่วยติดเตียงมีกี่ประเภท ?
เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยติดเตียงมีความแม่นยำ สามารถจำแนกผู้ป่วยติดเตียงออกเป็น 3 กลุ่มสีตามแนวทางของศูนย์ฟื้นฟูผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรัง ดังนี้
ผู้ป่วยติดเตียงกลุ่มสีเขียว (กลุ่มพึ่งพิงน้อย)
ผู้ป่วยกลุ่มนี้ยังสามารถช่วยเหลือตนเองได้บางส่วน เช่น นั่งได้ เคลื่อนไหวได้เล็กน้อย และสื่อสารได้ดี อาจต้องการความช่วยเหลือในการอาบน้ำ แต่งตัว หรือเดินไปห้องน้ำ ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีโอกาสฟื้นตัวได้ดีและสามารถดูแลตนเองได้มากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
ผู้ป่วยติดเตียงกลุ่มสีเหลือง (กลุ่มพึ่งพิงปานกลาง)
ผู้ป่วยกลุ่มนี้ต้องการความช่วยเหลือมากขึ้น อาจนั่งได้แต่ต้องมีการพยุง เคลื่อนไหวได้น้อย และต้องการความช่วยเหลือในกิจวัตรประจำวันเกือบทั้งหมด เช่น การกิน การดื่มน้ำ การขับถ่าย และการรักษาความสะอาด ผู้ป่วยกลุ่มนี้ต้องมีการดูแลที่ใกล้ชิดและสม่ำเสมอ
ผู้ป่วยติดเตียงกลุ่มสีแดง (กลุ่มพึ่งพิงสูง)
ผู้ป่วยกลุ่มนี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้เลย อาจมีปัญหาด้านการสื่อสาร การกลืนอาหาร รวมถึงปัญหาด้านสภาพจิตใจ จึงต้องได้รับการดูแลในทุกด้าน ตั้งแต่การให้อาหาร การขับถ่าย การรักษาความสะอาด และการป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ
สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังในการดูแลผู้ป่วยติดเตียง
การดูแลผู้ป่วยติดเตียงต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะ 3 ปัญหาหลักต่อไปนี้
แผลกดทับ
ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดในผู้ป่วยติดเตียง คือ แผลกดทับ เกิดจากการที่น้ำหนักของร่างกายกดทับบริเวณกระดูกนาน ๆ ทำให้เกิดการขาดเลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อ จนกลายเป็นแผลได้ บริเวณที่เสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับ ได้แก่ ก้นกบ กระดูกหางปลา ข้อศอก ส้นเท้า และด้านข้างของขา แผลกดทับมีตั้งแต่ระยะเริ่มต้นที่ผิวหนังเปลี่ยนสี จนถึงระยะรุนแรงที่มีการติดเชื้อลึกเข้าไปถึงกระดูก ซึ่งอันตรายเป็นอย่างมาก
การติดเชื้อ
ผู้ป่วยติดเตียงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง การไหลเวียนเลือดไม่ดี และมีโอกาสสัมผัสกับเชื้อโรคจากคนรอบตัว รวมถึงสภาพแวดล้อม โดยที่พบบ่อย ได้แก่ การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินปัสสาวะ และการติดเชื้อที่แผลกดทับ
สุขอนามัย
การรักษาความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการดูแลผู้ป่วยติดเตียง เนื่องจากผู้ป่วยไม่สามารถดูแลตนเองได้ การที่ผู้ป่วยต้องขับถ่ายบนเตียง มีการสะสมของเหงื่อ และขาดการทำความสะอาดร่างกาย ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพได้ทั้งสิ้น
วิธีดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างเหมาะสม
ในการดูแลผู้ป่วยติดเตียง จำเป็นต้องมีความใส่ใจอย่างมาก โดยมีวิธีการหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
ดูแลท่าทางการนอน
การจัดท่าทางการนอนที่เหมาะสม เป็นพื้นฐานสำคัญของการดูแลผู้ป่วยติดเตียง โดยควรจัดให้ผู้ป่วยนอนในท่าที่ธรรมชาติ มีการรองรับส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอย่างเหมาะสม ใช้หมอนรองใต้ศีรษะ คอ แขน และขา เพื่อลดแรงกดทับและป้องกันการเกิดแผลกดทับ
พลิกตัวอย่างสม่ำเสมอ
การพลิกตัวผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการให้นอนท่าเดียวนาน ๆ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันแผลกดทับ โดยควรพลิกตัวผู้ป่วยทุก 2 ชั่วโมง หรือบ่อยกว่านั้นหากผู้ป่วยมีความเสี่ยงสูง การพลิกตัวต้องทำอย่างระมัดระวัง โดยใช้เทคนิคที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ รวมถึงควรหาผู้ช่วยเหลือ หากผู้ป่วยมีน้ำหนักตัวมาก
ใส่ใจเรื่องโภชนาการ
ผู้ป่วยติดเตียงต้องการโภชนาการที่เพียงพอและเหมาะสม เพื่อช่วยในการฟื้นฟูร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยควรให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง รวมถึงอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย หากผู้ป่วยมีปัญหาการกลืน ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อหาทางเลือกในการให้อาหารที่เหมาะสม
ฝึกการเคลื่อนไหวเล็กน้อย
แม้ว่าผู้ป่วยจะติดเตียง แต่การฝึกการเคลื่อนไหวเล็กน้อยที่ผู้ป่วยสามารถทำได้ยังคงมีความสำคัญ เช่น การงอเหยียดแขนขา การหายใจลึก ๆ การเคลื่อนไหวนิ้วมือและนิ้วเท้า ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ป้องกันการเกิดลิ่มเลือด และรักษาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
รักษาความสะอาด
การรักษาความสะอาดของผู้ป่วยติดเตียง เป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดร่างกาย การเปลี่ยนผ้าอ้อม การเช็ดตัว และการดูแลช่องปาก โดยควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวหนัง หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ที่แรงเกินไป และหมั่นเปลี่ยนชุดนอน รวมถึงผ้าปูเตียงอย่างสม่ำเสมอ
ใช้เตียงผู้ป่วยคุณภาพมาตรฐาน
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มองข้ามไม่ได้อย่างเด็ดขาด คือ การเลือกใช้เตียงผู้ป่วยไฟฟ้าที่มีคุณภาพ โดยเตียงที่ดีควรมีฟังก์ชันปรับระดับได้ มีการกระจายน้ำหนักได้ดี และช่วยลดการเกิดแผลกดทับ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ดูแลสามารถปรับท่าทางของผู้ป่วยได้ง่ายขึ้น ลดภาระการทำงานของผู้ดูแลอีกด้วย
การดูแลผู้ป่วยติดเตียงให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ใช่แค่เรื่องของการดูแลด้านร่างกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการให้ความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมและอุปกรณ์ที่ใช้งาน โดยเฉพาะเตียงผู้ป่วยไฟฟ้าที่สามารถช่วยให้การดูแลผู้ป่วยง่ายขึ้น ลดความเสี่ยงจากแผลกดทับ และสร้างความสะดวกทั้งผู้ป่วยและผู้ดูแล เลือกเตียงผู้ป่วยไฟฟ้าจาก Wannakarn Medical มั่นใจในคุณภาพมาตรฐานระดับสากล พร้อมบริการหลังการขาย โดยทีมผู้เชี่ยวชาญยินดีให้คำแนะนำทั้งเรื่องอุปกรณ์และการดูแลแบบครบวงจร
สนใจสั่งซื้อสินค้าหรือขอคำปรึกษาเพิ่มเติม ติดต่อเราได้ที่
โทร: 02-301-0425, 064-393-6624, 085-210-9055
LINE Official Account: @WNmedical (มี @ นำหน้า)
ข้อมูลอ้างอิง
- คู่มือการดูแลผู้ป่วยติดเตียง. สืบค้นเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2568 จาก https://pranangklaohospital.moph.go.th/webpnk60/images/Appmanual/am-130.pdf
- คู่มือการดูแลระยะยาว (Long Term Care) สำหรับทีมหมอครอบครัว. สืบค้นเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2568 จาก https://www.rama.mahidol.ac.th/ramacme/sites/default/files/public/Family%20Doctor-01.pdf?fbclid=IwAR3fov5kWqWO6uKZ3ieZQy8C0rq_N8Z4JtVaarsbNWl80-bZrxwD-1MhyHQ
This Post Has 0 Comments